ในสังคมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่าเราจะพบเห็นคนเป็นโรคซึมเศร้ากันมากขึ้นจนน่าประหลาดใจ บางคนถึงขนาดตัดสินใจฆ่าตัวตาย ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตระบุว่าปีที่แล้วมีคนพยายามฆ่าตัวตาย 5. 3 หมื่นคนและฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 คนทุกๆ 2 ชั่วโมง
ภาวะซึมเศร้าเกิดขึ้นได้ง่ายในยุคปัจจุบันและอาจจะเกิดกับคนใกล้ตัวอย่างเพื่อนร่วมงานหรือคนในครอบครัวของเราก็ได้
เราควรเรียนรู้วิธีการช่วยเหลือคนเหล่านี้
คุณหมอประเวชตันติพิวัฒนสกุลจิตแพทย์พูดถึงสาเหตุสำคัญของโรคซึมเศร้าที่ไม่ใช่มาจากเรื่องสารเคมีในสมองว่ามี 5 สาเหตุ.
1.สังคมที่เปลี่ยนไปทำให้ผู้คนอยู่กันอย่างเหินห่าง มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างน้อยลง คนมีความเป็น individual มากขึ้น มีทีวีในห้องส่วนตัว ชอบอยู่กับตัวเอง อยู่กับโทรศัพท์มือถือจึงเกิดความโดดเดี่ยวและความเหงามากขึ้นตามไปด้วยบางคนไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไม่ว่าจะเป็นในครอบครัวโรงเรียนหรือที่ทำงาน
2. ลักษณะการทำงานที่ซ้ำซากไม่สนุกมองไม่เห็นว่างานที่ตัวเองทำมีคุณค่าอย่างไร บางคนต้องทนทำงานที่ไม่ใช่และไม่ได้ชอบเพื่อแค่หาเงินมาเลี้ยงชีพทำให้ความภาคภูมิใจในงานที่ทำหายไป และยังมีค่านิยมในการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเช่นเมื่อไปส่อง facebook แล้วเห็นคนอื่นเขาใช้ชีวิตดูดี ไปกินไปเที่ยว แล้วกลับมามองเห็นตัวเองว่าไม่ดีเด่นเท่าเขา เวลาจะโพสต์อะไรแล้วก็คอยแต่สนใจว่าจะได้ยอด like เท่าไรทั้งๆที่มันเป็นการแสดงออกแบบฉาบฉวยและเสแสร้งไปตามค่านิยมของสังคมออนไลน์
3. การใช้ชีวิตที่ห่างเหินจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินที่ผ่านกระบวนการผลิตการออกกำลังกายและนอนหลับไม่เพียงพอใช้ชีวิตไม่สมดุลและการกินยาปฏิชีวนะต่างๆที่ไปฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ให้ตายไปหมด
4. การมีปมค้างใจในชีวิตมาตั้งแต่วัยเด็กซึ่งอาจจะเกิดจากคนและความรุนแรงในครอบครัวและยังฝังใจอยู่
5. ไม่มีทักษะทางการคิดและทักษะในการจัดการปัญหาทำให้ไม่สามารถจัดการกับความยุ่งยากซับซ้อนและอารมณ์ของตัวเองได้จึงทำให้เกิดความเครียด
ตอนนี้จิตแพทย์จึงต้องทำงานหนักมากมีพ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกมาปรึกษากันเยอะมากเพราะเด็กและวัยรุ่นสมัยนี้เกิดมาท่ามกลางความสะดวกสบายและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ บางครั้งถึงกับระเบิดออกมา ถ้าระเบิดใส่ใครไม่ได้ก็มักจะมาลงกับตัวเอง ทำให้หลายคนตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า self esteem ความภาคภูมิใจในตัวเองแทบจะไม่มีเหลือเพราะมัวแต่แสวงหาการยอมรับจากผู้อื่นตามโลก Social ไปวันๆ
ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเพราะคนจำนวนไม่น้อยตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะมีภาวะซึมเศร้าสิ่งที่เราต้องช่วยกันทำเพื่อช่วยเหลือคนเหล่านี้คือฝึกให้เขามีทักษะการคิดและการจัดการสภาวะอารมณ์ให้เรียนรู้วิธีจัดการกับความผิดหวังความล้มเหลวหรือความสำเร็จชัยชนะที่ตนเองได้รับ
และฝึกเรื่องความอดทนอันเป็นวุฒิภาวะที่สำคัญมากที่ทำให้เกิดความเข้มแข็งทางด้านจิตใจและทางกายวาจาให้ดีขึ้น ฝึกที่จะไม่บ่นเวลาที่ต้องทำงานหนักเพราะเป็นการเปิดให้เห็นว่าตัวเองเป็นคนอ่อนแอไม่พร้อมที่จะสู้ ฝึกชื่นชมตัวเองเมื่อทำงานยากได้สำเร็จเพื่อทำให้ตัวเองมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้คนรอบข้างยังช่วยพวกเขาได้ด้วยการให้ความรักและความใส่ใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการความรักและความใส่ใจนั้นถ้าเรามีแล้วจะเก็บไว้ในใจไม่ได้ต้องแสดงออกมาและมอบให้กับพวกเขาซึ่งเราสามารถแสดงออกมาผ่านการกระทำดังนี้
1. พูดและชมเชยเมื่อพวกเขาทำอะไรได้สำเร็จ บอกรัก และฟังเขาพูดอย่างตั้งใจ ต้อง connect กับพวกเขาด้วยสายตาและพูดออกมาจากใจ
2. สัมผัสทางกายด้วยการกอดอย่างจริงจังเพื่อแสดงความรักหรือตบบ่าเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
3. ให้สิ่งของที่เขาชอบพื่อแสดงความรักและการขอบคุณ
4. ให้ความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้เพื่อให้รู้ว่าเรารักและห่วงใย
5. ใช้เวลาที่มีคุณค่าร่วมกัน
เหล่านี้เป็นวิธีแสดงออกถึงความรักเพื่อให้พวกเขาได้รับรู้ว่าพวกเขามีค่าและสำคัญกับเรามากแค่ไหน การแสดงออกถึงความรักที่กล่าวมานี้สามารถเลือกใช้ได้ในสังคมทุกระดับไม่ว่าจะเป็นในครอบครัวระหว่างพ่อแม่ลูก ในที่ทำงานระหว่างเจ้านายลูกน้องเพื่อนร่วมงานเพื่อทำให้พวกเขารู้สึกถึงคุณค่าและความหมายของตัวเองอย่างแท้จริง และเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง เมื่อใดที่เราใช้ความรักและความใส่ใจช่วยให้คนเกิดความภาคภูมิใจและ fully connect กับ valuesในตัวเขาเองได้ เมื่อนั้นเขาจะเกิด self esteem และมีความเชื่อมั่นว่าเขาทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ เขาจะไม่มีความคิดว่าเขา“ ยังไม่เก่ง” หรือ“ ยังไม่ดีพอ “จิตใจที่เหี่ยวเฉาก็กลับมาสดชื่น คนอื่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกด้อยและต้อยต่ำมาช่วยกันเติมเต็มความรักและความใส่ใจให้กับคนรอบข้างเพื่อสร้างให้สังคมของเราสดใสมากขึ้นกันค่ะ
สนใจ ปรึกษาสอบถามเรื่องสุขภาพได้ที่
ADD US ON LINE
FACEBOOK PAGE
โทร (Call) +662 661 4431
อีเมล์ (E-mail) info@drorawan.com
#drorawan #sukhumvit #docter #skin #holistic #beauty #สุขภาพ #ความงาม #tips #อาหาร