fbpx

ไขมันชนิดดี ไขมันชนิดเลว ในเลือด ตรวจอย่างไร?

สิงหาคม 15, 2019
checking cholesterol in blood

การตรวจระดับไขมันในเลือด คือ การวัดค่าของไขมันที่มีอยู่ในเลือด การตรวจนี้ก็เพื่อที่ต้องการทราบถึงค่าปริมาณของไขมันที่มีอยู่ในเลือดว่าไขมันชนิดไหนมีปริมาณเท่าไหร่บ้าง ซึ่งการรู้ว่าในเลือดมีไขมันชนิดดีหรือไม่ดีในปริมาณเท่าไหร่จะทำให้ผู้เข้ารับการตรวจ

การตรวจระดับไขมันในเลือด

สนใจดูแลเรื่องอาหารและการออกกำลังกายมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคในอนาคตได้ ซึ่งการตรวจจะมีการตรวจไขมัน 4 ชนิด ดังนี้

  1. คอเรสเตอรอลรวม ( Total Cholesterol : TC ) เป็นการวัดปริมาณ คอเลสเตอรรอล ทั้ง คอเลสเตอรอลชนิดดี และ คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ที่มีอยู่ในกระแสเลือด ซึ่งค่าเลือดปกติของคอเลสเตอรอลควรมีค่าไม่เกิน 200 mg / dl
  2. ไตรกลีเซอรไรด์ ( Triglyceride ) คือ ไขมันที่ได้จากการสังเคราะห์ในร่างกายและการรับประทานอาหารที่มีไขมันเข้าไป ไตรกลีเซอไรด์จะมีการเปลี่ยนไปเป็นไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกาย ถ้าไตรกลีเซอไรด์มีค่าสูง แสดงว่าร่างกายมีการสะสมของไขมันเพิ่มมากขึ้น มีความเสี่ยงในการเป็น โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันอุดตัน หลอดเลือดแข็งตัว เมื่อมีการสะสมมากจะทำให้เกิด ภาวะอ้วน ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอื่น ๆ ตามมา ค่าเลือดปกติของไตรกลีเซอไรด์ควรมีค่าไม่เกิน 150 mg/dl ซึ่งจะสัมพันธ์กับการรับประทานอาหารพวกแป้งแบะนำ้ตาล หากมีค่าสูงต้องงดอาหารจำพวกแป้งและนำ้ตาลคะ
  3. ไขมันชนิดดี ( High Density Lipoprotein : HDL ) คือ ไขมันดีที่ตับสังเคราะห์ขึ้นมา ซึ่งค่าเลือดปกติควรมีค่า HDL ไม่ต่ำกว่า 40 mg/dl จึงจะอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม เพราะว่า HDL มีหน้าที่ป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจ
  4. ไขมันชนิดเลว ( Low Density Lipoprotein : LDL ) คือ ไขมันชนิดไม่ดี ซึ่งไขมันชนิดนี้มาได้จากการรับประทานเข้าไปและการสังเคราะห์ที่ตับ LDL สามารถเข้าไปสะสมอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ กลายเป็นไขมันส่วนเกิน และสามารถสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดตีบหรืออุดตันได้ ซี่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ ค่าเลือดปกติภายในร่างกายควรมี LDL ไม่เกิน 100 mg/dl เพราะถ้าเกินกว่านี้ร่างกายจะเกิดการสะสมไม่สามารถกำจัดหรือใช้งานได้หมด ต้องงดการรับประทานของทอด ของมัน และเปลี่ยนการใช้นำ้มันชั้นดีที่หมอเคยเขียนในบทความก่อน

การที่จะให้ผลการตรวจมีความแม่นยำมากที่สุด ผู้ตรวจควรอดน้ำ อดอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนทำการเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจ

หลังการตรวจเลือดผู้เข้ารับการตรวจจะได้รับตารางรายงานผลค่าผลเลือดต่าง ๆ ซึ่งในตารางผลการตรวจจะมีการระบุค่าเลือดปกติไว้ด้านหลังค่าของผู้เข้ารับการตรวจด้วย โดยค่าเลือดปกติจะเป็นค่ามาตรฐานที่จะมีค่าไม่เท่ากันทุกคน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย เช่น อายุ เพศ ความสูง น้ำหนัก เป็นต้น ซึ่งเมื่อผลการตรวจออกมาแล้ว เราควรทำความเข้าใจและดูค่าโดยรวมว่ามีค่าผลตรวจเลือดใดเกินค่าเลือดปกติบ้าง และถ้ามีข้อสงสัยหรือมีความกังวลว่าจะเป็นโรคใดหรือไม่ ผู้เข้ารับการตรวจควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์อีกครั้งถึงจะสามารถสรุปได้ว่าท่านเป็นโรคจริงหรือไม่ และเมื่อทราบค่าผลตรวจเลือดแล้วพบว่าเรามีความเสี่ยงในด้านใด เราควรใส่ใจเลือกอาหารให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของเรา เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงต่อไปคะ

“สุขภาพดีเป็นสุนทรียภาพและความงามคือความสุข”

ปรึกษาสอบถามเรื่องสุขภาพได้ที่

ADD US ON LINE
FACEBOOK PAGE
โทร (Call) +662 661 4431
อีเมล์ (E-mail) info@drorawan.com

#drorawan #sukhumvit #docter #skin #holistic #beauty #สุขภาพ #ความงาม #tips

Related Blogs/บทความที่น่าสนใจ

7 habits of emotionally intelligent person
Posted by Dr. Orawan | พฤษภาคม 21, 2021
นิสัย 7 ประการของผู้ฉลาดทางอารมณ์
กล่าวโดยสรุป ผู้ที่มีความฉลาดท...
what is probiotic
Posted by Dr. Orawan | พฤษภาคม 21, 2021
Probiotics คืออะไร? สุขภาพดี…เริ่มต้นที่ลำไส้
การที่จะทำให้ลำไส้ของเราแข็งแร...
โรคเบาหวาน ความดัน
Posted by Dr. Orawan | พฤษภาคม 21, 2021
แอบฟังเซลล์ในร่างกายคุย(บ่น)กัน
แอบฟังเซลล์ในร่างกายคุย(บ่น)กั...