คือ โรคซึ่งเกิดมีเซลล์ผิดปกติในร่างกาย และเซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตรวดเร็วเกินปกติ ร่างกายควบคุมไม่ได้ ดังนั้นเซลล์เหล่านี้จึงเจริญลุกลามและแพร่กระจายได้ทั่วร่างกายส่งผลให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่ออวัยวะต่างๆ เหล่านั้นล้มเหลวไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด ได้แก่ ปอด ตับ สมอง ไต กระดูก และไขกระดูก
มะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ในระบบไดบ้าง ???
- ♥️ มะเร็งศีรษะและลำคอ
- ♥️ มะเร็งต่อมไทรอยด์
- ♥️ มะเร็งระบบทางเดินอาหารและตับ
- ♥️ มะเร็งกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน
- ♥️ มะเร็งผิวหนัง
- ♥️ มะเร็งเต้านม
- ♥️ มะเร็งนรีเวช
- ♥️ มะเร็งระบบทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธ์ชาย
- ♥️ มะเร็งตา
- ♥️ มะเร็งสมองและระบบประสาท
- ♥️ มะเร็งเยื่อบุช่องท้อง
- ♥️ มะเร็งระบบโรคเลือดและต่อมน้ำเหลือง
- ♥️ มะเร็งปอดและหลอดลม
- ♥️ มะเร็งช่องอก
- ♥️ มะเร็งในเด็ก
อาการของมะเร็ง
- ♥️ พบก้อนในร่างกาย
- ♥️ มีการเปลี่ยนแปลง สี ขนาด และรูปร่างของไฝ
- ♥️ แผลไม่หายใน 2-3 สัปดาห์
- ♥️ แผลในปากและลิ้น
- ♥️ ไอติดต่อกันสามสัปดาห์
- ♥️ กลืนอาหารลำบาก อาหารไม่ย่อย
- ♥️ ปัสสาวะลำบาก
- ♥️ ปัสสาวะมีเลือด
- ♥️ อุจาระมีเลือดปน
- ♥️ ท้องร่วงเรื้อรัง
- ♥️ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ♥️ ปวดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ♥️ เหนื่อยง่าย
- ♥️ ไอมีเลือดปน
- ♥️ อาการมะเร็งของสตรี:
- ♥️ มีการเปลี่ยนแปลงเต้านม
- ♥️ เลือดออกทางช่องคลอด
- ♥️ ท้องอืดมาก
การรักษาทางการแพทย์
การตรวจพบโรคมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกย่อมเป็นผลดีต่อการรักษา ซึ่งวิธีรักษามีดังต่อไปนี้
1. การผ่าตัด เป็นการเอาก้อนที่เป็นมะเร็งออกไป มักทำในผู้ป่วยที่โรคมะเร็งยังอยู่เฉพาะที่ตำแหน่งเริ่มต้น (มะเร็งระยะที่ 1) หรือในบางกรณีเพียงกระจายไปเนื้อเยื่อข้างเคียงหรือลุกลามทะลุผ่านอวัยวะที่เป็นโพรง (ระยะที่ 2) เท่านั้น ฉะนั้นจะเห็นว่ามักมีการรักษา
เสริมด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา ซึ่งมีความสำคัญและเสริมให้ผลการผ่าตัดได้ผลดียิ่งขึ้น
2. รังสีรักษา เป็นการให้รังสีกำลังสูง เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง คือ รักษาโดยใช้รังสีที่มีพลังงานสูง เช่น รังสีเอ็กซ์ รังสีแกมม่า หรือ อนุภาคที่มีพลังงานสูง เช่น อิเลคตรอน โปรตอน หรือ นิวตรอน โดยฉายรังสีในบริเวณที่เป็นโรคและครอบคลุมไปถึงต่อมน้ำเหลืองที่อาจมีโรคแพร่กระจายไปด้วย รังสีจะฆ่าเซลล์ที่เติบโตเร็ว เช่น เซลล์มะเร็ง แต่เซลล์ในร่างกายที่แบ่งตัวเร็ว เช่น เซลล์ผิวหนัง เซลล์เยื่อบุลำไส้ ก็มีโอกาสถูกทำลายด้วย ü ระยะเวลาการรักษาทั่วไป : ฉายรังสี วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 5-15 นาที 5 ครั้งต่อสัปดาห์ จนครบได้ปริมาณรังสีตามแพทย์กำหนด (ประมาณ 10-35 ครั้ง)
3. เคมีบำบัด เป็นการให้ยา (สารเคมี) เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง คือ การรักษาด้วยยาเพื่อควบคุมหรือทำลายเซลล์มะเร็ง โดยการออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง และทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรง และอาจมีผลข้างเคียงต่อเนื้อเยื่อปกติ ระยะเวลาการรักษาทั่วไป : ขึ้นกับชนิดและระยะของโรคมะเร็ง และการตอบสนองของมะเร็งต่อตัวยา มักให้เป็นชุด ชุดละ 1-5 วัน ห่างกัน 3-4 สัปดาห์
4. ฮอร์โมนบำบัด เป็นการใช้ฮอร์โมน เพื่อยุติการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
5. การรักษาแบบผสมผสานเป็นการรักษาร่วมกันหลายวิธีดังกล่าวข้างต้นแต่จะใช้วิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรค
จะเห็นได้ว่า ผลข้างเคียงจากการรักษาทั้ง 5 วิธี มีผลกับการกินอาหาร เพราะเมื่ออ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ มีแผลอักเสบในปาก ก็จะกินได้น้อยลง เริ่มน้ำหนักลด สูญเสียกล้ามเนื้อ ภูมิคุ้มกันต่ำ เกร็ดเลือดและเม็ดเลือดขาวต่ำ
6. การรักษาร่วมกับการแพทย์องค์รวมด้วยการให้วิตามิน เกลือแร่ อาหารเสริม พร้อมกับการล้างสารพิษ โลหะหนัก ต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิต้านทาน อาการบำบัด กำลังใจ คิดบวก สมาธิบำบัด และการออกกำลังกายตามความเหมาะสมของแต่ละคนเป็นต้นซึ่งนอกจากข่วยให้คนไข้มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ยังช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาและมะเร็งเอง ยังช่วยให้หายเร็วขึ้น และหายขาดได้ด้วย จากประสบการณ์
ในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งมานานหลายปีพบว่าการให้การรักษาด้วยการแพทย์ผสมผสานได้ผลดีที่สุดต่อผู้ป่วยและญาติ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.drorawan.com
“สุขภาพดีเป็นสุนทรียภาพและความงามคือความสุข”
สนใจ ปรึกษาสอบถามเรื่องสุขภาพได้ที่
ADD US ON LINE
FACEBOOK PAGE
โทร (Call) +662 661 4431
อีเมล์ (E-mail) info@drorawan.com
#drorawan #sukhumvit #docter #skin #holistic #beauty #สุขภาพ #ความงาม #tips