fbpx

13 สุดยอดอาหาร ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

สิงหาคม 20, 2019
13 food that can reduce sugar level

อาหารที่ช่วยลดน้ำตาล​ในเลือด ดีกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เรียกได้ว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับทุกคน

การลดระดับน้ำตาลในเลือด ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาเสมอไป แต่อาหารใกล้ตัวก็สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด หรืออย่างน้อย ๆ ก็ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ตัวช่วยจะได้ลดภาระของไตจากยาเคมีไปได้บ้าง

  1. แอปเปิลไซเดอร์
    เพียง 1 ช้อนชาของแอปเปิลไซเดอร์ ผสมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว จิบระหว่างมื้ออาหาร ผลการศึกษาจาก Diabetes Care พบว่าสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยแอปเปิลไซเดอร์จะเข้าไปกระตุ้นการหลั่งของอินซูลิน และเข้าไปควบคุมอินซูลินในกระแสเลือด หลังจากที่ร่างกายย่อยอาหารประเภทแป้งไป ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งจนเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2
  2. กระเทียม หอมแดง
    นอกจากสรรพคุณของกระเทียมในเรื่องช่วยลดไขมันในเลือดแล้ว การศึกษาเมื่อปี 2006 และปี 2012 ยังพบว่า สารสกัดในกระเทียมมีประโยชน์ในด้านลดน้ำตาลในเลือดด้วย โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สารสกัดในกระเทียมจะเข้าไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกายผู้ป่วยได้ รวมทั้งหัวหอมและหอมแดงก็เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือดเช่นเดียวกัน
  1. อะโวคาโด
    สิ่งสำคัญในอะโวคาโดที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ก็คือกรดไขมันอิ่มตัว หรือ MUFAs ซึ่งพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช มะกอก น้ำมันมะกอก และแฟลกซ์ซีดด้วยเช่นกัน
    โดยกรดไขมันอิ่มตัวนี้จะช่วยลดความเสี่ยงกลุ่มอาการโรคอ้วนลงพุง Metabolic Syndrome ซึ่งมีโรคเบาหวานเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคนี้ด้วย เนื่องจากกรดไขมันอิ่มตัวจะเข้าไปชะลอการไหลเวียนของน้ำตาลในเลือด พร้อมทั้งลดภาวะต้านอินซูลินในร่างกาย อีกทั้งกรดไขมันอิ่มตัวยังช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มหลังมื้ออาหาร แถมยังดีต่อความดันโลหิต และป้องกันการอักเสบอีกต่างหาก
  2. ผักใบเขียว
    พืชผักใบเขียวแทบทุกชนิดจะอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ตัวช่วยสุดยอดที่ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี เพราะแมกนีเซียมไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพเลือดเท่านั้น แต่ยังจัดเป็นแหล่งสารอาหารชั้นเลิศของเลือดด้วย ดังนั้นเมื่อกินผักใบเขียวเข้าไป เลือดก็จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ เสริมสร้างความแข็งแกร่ง และคอนโทรลระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
  3. อัลมอนด์
    อัลมอนด์มีดีทั้งแมกนีเซียม ไฟเบอร์ โปรตีน แถมยังมีโครเมียมที่เปี่ยมไปด้วยสรรพคุณลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยนักโภชนาการก็แนะนำให้รับประทานอัลมอนด์สักวันละ 1 กำมือเล็ก ๆ แค่นี้ก็เหมือนระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในคอนโทรลของเราแล้ว
    แอลฟีนิบอะบานีนจากอัลมอนด์ ช่วยส่งเสริมการทำงานของอินซูลืนช่วยในการใช้นำตาลทำให้ควบคุมเบาหวานและคุมนำ้หนักได้ดี
    – ลดภาวะซึมเศร้า
    – เพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุขแจ่มใส ลดความเครียด ผ่อนคลาย สบาย หลับลึกและหลับสบาย ช่วยปรับอารมณ์ให้คงที่ไม่แปรปรวน บำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งออร่า
  4. โฮลเกรน
    โฮลเกรนหรือโฮลวีททุกชนิดเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ที่ร่างกายจะย่อยคาร์โบไฮเดรตชนิดนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งพล่าน อีกทั้งโฮลเกรนยังอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ตัวช่วยดี ๆ ของเลือดอีกต่างหาก
  5. แซลมอน
    แซลมอนเป็นแหล่งสารอาหารชั้นยอดที่พกมาทั้งโปรตีน กรดไขมันโอเมก้า 3 ไนอาซิน และวิตามินดี ซึ่งทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3 และวิตามินดีก็มีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้พอ ๆ กัน อีกทั้งวิตามินดียังช่วยลดอาการอักเสบ ซึ่งก็จะได้ผลพวงในเรื่องต้านอินซูลินด้วย
  6. ส้ม
    จากคำอ้างอิงของ American Diabetes Association ที่แนะนำว่าส้มช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ ด้วยเพราะส้มเป็นผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลค่อนข้างต่ำ ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบกับระดับน้ำตาลในเลือด แปลว่ากินส้มแล้วระดับน้ำตาลในเลือดจะไม่พุ่งปรี๊ดปร๊าดให้ต้องเสียวสันหลังนั่นเอง
  7. ข้าวโอ๊ต
    ข้าวโอ๊ตมีไฟเบอร์สูง มีประโยชน์ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งข้าวโอ๊ตยังจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ร่างกายจึงสามารถดูดซึมสารอาหารและเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสั่นสะเทือนแน่นอน
  8. ชาเขียว
    ผลการศึกษาจาก National Center for Complementary และ Alternative Medicine เผยว่า ชาเขียวสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังมีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดด้วย ฉะนั้นจะบอกว่าชาเขียวดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน ดีต่อคนที่อยากลดระดับคอเลสเตอรอล และเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพของคนทุกวัยก็ไม่ผิดนัก
  9. โครเมียม สามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
    โครเมี่ยมพิโคลิเนตจากธรรมชาติ
    -ข่วยกระชับสัดส่วนเร่งเผาผลาญไขมันส่วนเกิน
    -ล้างสารพิษ ล้างตับ
    -ลดนำ้ตาลในเลือด ช่วยเพิ่มการดูดซึมนำ้ตาลเข้าเซลทำให้ประบลดระดับนำ้ตาลในเลือด-ลดไขมัน& ไขมันพอกตับ
    -ลดเซลลูไลทใต้ผิวหนัง

ปริมาณโครเมียมสำรองของร่างกายอยู่ที่ประมาณ 4-6 มก. เมื่ออายุเพิ่มขึ้นความเข้มข้นของโครเมียมในเนื้อเยื่อต่างๆอาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญ การรับประทานของหวานอาจช่วยบรรเทาความอยากของหวานได้ชั่วคราวเพราะให้พลังงานในทันที แต่ผลจะหายไปหลังจากนั้นไม่นาน ในระยะยาวความอยากอาหารดังกล่าวกลับส่งผลเสียต่อน้ำหนักตัว
การเสริม โครเมียมช่วยให้ร่างกายรักษาระดับน้ำตาลในเลือดปกติและป้องกันไม่ให้สถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น การลดน้ำตาลจะส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักในระยะยาว
โครเมียมทำหน้าที่สำคัญ ช่วยในกระบวนการเผาผลาญสารอาหารชนิด macronutrient (ธาตุอาหารหลัก) และยังช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือด
แหล่งอาหารที่สามารถพบแร่ธาตุโครเมียม ได้แก่ ไก่ หอยกาบ ตับลูกวัว จมูกข้าวสาลี น้ำมันข้าวโพด บริเวอร์ยีสต์ เป็นต้น โดยหลักประกันที่ดีที่สุดที่จะมั่นใจได้ว่าร่างกายไม่ได้ขาดแร่ธาตุนี้ คือการรับประทานอาหารให้หลากหลาย ซึ่งจะทำให้ได้รับสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นอีกด้วย
การผสมผสานโครเมียมกับเส้นใยอาหารในปริมาณสูงก็เป็นประโยชน์เช่นกัน ตรงกันข้ามกับคาร์โบไฮเดรตเช่นน้ำตาล ใยอาหารทำให้อิ่มนาน แต่จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการหมักของใยอาหารในลำไส้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สามารถยับยั้งหรือควบคุมความอยากอาหารที่จะช่วยสนับสนุนการลดน้ำหนัก
แต่ควรจำไว้ว่าจะไม่เกิดขึ้นชั่วเวลาข้ามคืน การลดน้ำหนักต้องใช้เวลาและความพยายามคะ

  1. Bio-Fiber 
    ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เส้นใยอาหารเข้มข้น ทำจาก ต้นบีท (sugar beets) และเปลือกผลเลม่อน (Lemon peel) ช่วยทดแทนมื้ออาหารที่มีไฟเบอร์ต่ำ
  2. สารสกัดยีสต์จากไวน์ข้าว
    ช่วยย่อยอาหารและระบบทางเดินอาหาร
    -ช่วยการขับถ่ายดี
    -ปรับสมดุลย์ฮอร์โมนเลปติน-เกรลิน ทำให้ไม่รู้สึกหิวอิ่มนาน-รักษาสมดุลย์ระบบขับถ่าย

อยากลดระดับน้ำตาลในเลือดหรือป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดและอยู่ในเกณฑ์ผิดปกติ ลองรับประทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำดูนะคะ เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้เท่านั้น แต่อาหารทั้ง 13 อย่างยังจัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีต่อทุกคน แต่ที่สำคัญคือ ต้องปรับพฤติกรรมการกินอาหารของตัวเองด้วย และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจึงจะช่วยให้รักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดได้คงที่นะคะ

บทความอื่นๆ

อาหาร 8 ชนิดที่คนไทยแพ้มากที่สุด

“สุขภาพดีเป็นสุนทรียภาพและความงามคือความสุข”

ปรึกษาสอบถามเรื่องสุขภาพได้ที่

ADD US ON LINE
FACEBOOK PAGE
โทร (Call) +662 661 4431
อีเมล์ (E-mail) info@drorawan.com

#drorawan #sukhumvit #docter #skin #holistic #beauty #สุขภาพ #ความงาม #tips

Related Blogs/บทความที่น่าสนใจ

7 habits of emotionally intelligent person
Posted by Dr. Orawan | พฤษภาคม 21, 2021
นิสัย 7 ประการของผู้ฉลาดทางอารมณ์
กล่าวโดยสรุป ผู้ที่มีความฉลาดท...
what is probiotic
Posted by Dr. Orawan | พฤษภาคม 21, 2021
Probiotics คืออะไร? สุขภาพดี…เริ่มต้นที่ลำไส้
การที่จะทำให้ลำไส้ของเราแข็งแร...
โรคเบาหวาน ความดัน
Posted by Dr. Orawan | พฤษภาคม 21, 2021
แอบฟังเซลล์ในร่างกายคุย(บ่น)กัน
แอบฟังเซลล์ในร่างกายคุย(บ่น)กั...