โรคที่มักเกิดขึ้นกับวัยทำงาน “ไมเกรน” โรคที่ไม่ใช่แค่อาการปวดหัวทั่วไปอย่างที่คิด แต่เป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและเป็นอุปสรรคต่อการทำงานอย่างแท้จริง การมีความรู้และความเข้าใจอย่างถูกต้องจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการเริ่มต้นสังเกตตนเองและบุคคลใกล้ชิดห่างไกลจากโรคไมเกรน
เป็นเทรนด์โรคทางสมองที่กำลังมาแรงในกลุ่มคนทำงานที่เผชิญกับสิ่งกระตุ้น เช่น ความเครียดสูง การนอนผิดเวลา การเดินทางที่ต้องเผชิญกับสภาวะอากาศแปรปรวน
ส่วนมากพบผู้ป่วยอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 25-30 ปี มากที่สุด และมักพบในผู้ป่วยเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ด้วยสองปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรค คือ ร้อยละ 10-20 สืบเนื่องมาจากพันธุกรรมที่มีประวัติของคนในครอบครัวที่เป็นไมเกรนอยู่แล้ว และกว่าร้อยละ 80-30 เกิดจากพฤติกรรมสิ่งแวดล้อมที่สมองตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เป็นตัวกระตุ้นความรู้สึกถึงระบบประสาทเกิดความเปลี่ยนแปลงไวกว่าคนปกติ (Hypersensitivity) เช่น ความเครียด ฮอร์โมน การพักผ่อนไม่เพียงพอ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ความไวต่อแสงจ้า เสียงดัง และกลิ่นฉุน ล้วนเป็นสิ่งกระตุ้นชั้นยอดต่ออาการปวดศีรษะ รวมไปถึงการเคลื่อนไหว เนื่องจากการเคลื่อนไหวจะกระตุ้นให้อาการปวดศีรษะเลวร้ายมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้โรคไมเกรนยังมีอาการ อื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ การมองเห็นผิดปกติ คลื่นไส้ อาเจียน หงุดหงิดง่าย ซึ่งหากยิ่งซ้ำเติมจะยิ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการแย่ลงไปอีก โดยระยะของโรคไมเกรนสามารถจำแนกได้ด้วยระดับความ
ปวดศีรษะของโรคไมเกรนจะแบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่
- ระยะนำ คือการบอกเหตุก่อนเริ่มมีอาการปวดศีรษะประมาณ 1-2 วัน โดยผู้ป่วยจะมีการเปลี่ยนแปลงทางระบบสมองที่ควบคุมร่างกาย เช่น ตัวบวม ปวดเมื่อยตามตัว อารมณ์ รวมถึงพฤติกรรมและความอยากอาหารมากกว่าปกติ
- ระยะอาการเตือนคือการเตือนก่อน ได้แก่ เกิดอาการปวดศีรษะประมาณ5-60 นาที แต่จะไม่เกิดกับผู้ป่วยทุกคนเป็นอาการที่เกิดจากระบบประสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติสามารถเกิดได้หลายรูปแบบเช่นมองเห็นไม่ใช้ไมเกรนแสงกะพริบ ๆ แสงซิกแซกมองเห็นเป็นเส้นคลื่นหรืออาการที่ประสาทเกิดจากความรู้สึกการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้ออ่อนแรงรู้สึกชาที่มือหรือเท้าการพูดลำบากพูดไม่ชัดอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ เริ่มเกิดขึ้นและจะยังคงมีความรู้สึกนี้เป็นชั่วโมงหรือหลายชั่วโมงก็ได้หากมีหลายอาการ
- ระยะปวดศีรษะคือผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะด้านใดด้านหนึ่งโดยมีอาการปวดแบบตุบ ๆ ตามจังหวะหัวใจเต้นมักจะมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้อาเจียนผู้ป่วยบางรายอาจไวต่อแสงหรือเสียงดังซึ่งอาการปวดศีรษะอาจยาวนาน4-72 ชั่วโมงระยะหลังจากปวดศีรษะหรือระยะพักคืออาการปวดศีรษะและอาการอื่น ๆ จะค่อย ๆ ลดลงในระยะนี้ผู้ป่วยอาจจะมีความรู้สึกเหนื่อยล้าซึ่งอาจกินระยะเวลาไม่กี่วันหลังจากหายปวดศีรษะ
- ระยะหลังจากปวดศีรษะ (Resolution) หรือระยะพักคืออาการปวดศีรษะและอาการอื่นๆจะค่อยๆลดลงในระยะนี้ผู้ป่วยอาจจะมีความรู้สึกเหนื่อยล้าซึ่งอาจกินระยะเวลาไม่กี่วันหลังจากหายปวดศีรษะและไม่ใช้ยาหรือป้องกันอาการด้วยการหลีกเลี่ยงจากสิ่งเร้าทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ทุกข์ทรมานจากความปวดน้อยลงและประกอบกิจวัตรต่างๆทำงานได้ตามปรควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การปวดเรื้อรังคือหมั่นสังเกตตัวเองให้ดีรวมทั้งพิจารณาจากประสบการณ์ที่ผ่านมานอนหลับให้เพียงพอประมา 6 ถึง 8 ชั่วโมงต่อวันออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอจดบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกความปวดอาทิวันเวลาระยะเวลาลักษณะอาการปวดอาหารที่รับประทรวมถึงความผิดปกติต่างๆแต่หากผู้ป่วยมีอาการมากกว่าปกติ
อาการปวดยังสามารถแบ่งเป็นชนิดย่อยตามระยะการดำเนินของโรคไมเกรนได้อีก 2 กลุ่มได้แก่
1. การเกิดไมเกรนเป็นครั้งคราวคืออาการผู้ป่วยธรรมดาทั่วไปจะปวดน้อยกว่า 15 วันต่อเดือน
2. การเกิดไมเกรนแบบเรื้อรังคืออาการปวดนานมากกว่าหรือเท่ากับ 15 วันต่อเดือนซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้จะต้องพิจารณาตนเองหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าที่ก่อให้เกิดอาการมากที่สุด
การแพทย์แผนปัจจุบันการรักษาไมเกรนให้หายขาดยังเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาค้นคว้าต่อไปซึ่งจุดมุ่งหมายการรักษาจึงอยู่ที่การรับมือกับอาการปวดไม่ว่าจะด้วยการรักษาทั้งแบบใช้ยาและไม่ใช้ยาหรือป้องกันอาการด้วยการหลีกเลี่ยงจากสิ่งเร้าหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การปวดเรื้อรังหมั่นสังเกตตัวเองให้ดีรวมทั้งพิจารณาจากประสบการณ์ที่ผ่านมานอนหลับให้เพียงพอออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจดบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับความปวดอาทิวันเวลาระยะเวลาลักษณะอาการปวดอาหารที่รับประทานรวมถึงความผิดปกติต่าง ๆ
อีกทั้งหากผู้ป่วยมีอาการมากกว่าปวดศีรษะจนผิดสังเกตเช่นมีไข้สูงตาเห็นภาพซ้อนตาเหล่ปากเบี้ยวพูดไม่ชัดแบบนี้ไม่ใช้ไมเกรนแน่ๆแต่เห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดปกติทางระบบประสาทหรืออาการปวดศีรษะชนิดที่แปลกออกไปแบบที่ไม่เคยปวดมาก่อนเช่นปวดต่อเนื่องยาวนานไม่ดีขึ้นแม้ใช้ยาแขนขาอ่อนแรงชาครึ่งซีกพูดไม่ออกหากมีอาการเช่นนี้ ต้องรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วนอย่าปล่อยทิ้งไว้
หรือบางรายมีอาการปวดศีรษะอย่างมากร่วมกับอาการอาเจียนพุ่ง อาจเกิดจากมีความดันในสมองสูงจากก้อนเนื้องอกในสมองหรือมีภาวะติดเชื้อหรือเส้นเลือดในสมองแตก ต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาพยาบาลที่เร่งด่วน
นอกจากนี้ในการแพทย์องค์รวมจะสืบหาสาเหตุพบว่าบ้างเกิดจากสารอาหารบางอย่างที่ร่างกายสร้างภูมิต่อต้านขึ้นทำให้เกิดอาการไมเกรนได้ ซึ่งสามารถตรวจทราบได้ด้วยการเจาะเลือดส่งตรวจที่เรียกว่า IgG Food Intolerance Test สามารถเจาะเลือดเพื่อหาสาเหตุโรคที่มาจากอาหารก่อภูมิแพ้ด้วยอาการต่างๆได้อย่างแม่นยำและเพียงหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเหล่านั้นซึ่งเป็นเฉพาะบุคคล ก็ช่วยให้หายจากโรคและอาการนั้นได้อย่างแท้จริง
“สุขภาพดีเป็นสุนทรียภาพและความงามคือความสุข”
สนใจ ปรึกษาสอบถามเรื่องสุขภาพได้ที่
ADD US ON LINE
FACEBOOK PAGE
โทร (Call) +662 661 4431
อีเมล์ (E-mail) info@drorawan.com
#drorawan #sukhumvit #docter #skin #holistic #beauty #สุขภาพ #ความงาม #tips