fbpx

วิธีช่วยลดอาการบวมน้ำ และ อย่างไรจึงเป็นอาการบวมน้ำ

กันยายน 13, 2019
อาการบวมน้ำ

อาการบวมน้ำ หรือ ภาวะบวมน้ำ (Edema)เป็นภาวะที่มีน้ำหรือน้ำเหลืองสะสมคั่งค้างอยู่ภายในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของร่างกายในปริมาณมากจนทำให้เกิดอาการบวมและสามารถเกิดได้กับทุกส่วนของร่างกาย แต่จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเมื่อเกิดขึ้นบริเวณที่ห้อยตำ่สุดในร่างกายเช่น มือ แขน ขา ข้อเท้า และเท้า นอกจากอาการบวมน้ำแล้วอาจมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย อาการที่พบได้บ่อย มีดังนี้

• ผิวหนังตึงและมีความมันวาว
• ผิวหนังเป็นรอยบุ๋มหากถูกกดหรือจิ้มค้างไว้ประมาณ 5 วินาที
• ช่วงท้องมีขนาดใหญ่ขึ้น
• เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังบวมและโป่ง โดยเฉพาะบริเวณขาและแขน
• เคลื่อนไหวข้อเท้าหรือข้อมือได้อย่างจำกัด
• กรณีที่ปอดบวมน้ำ อาจทำให้เกิดอาการไอหรือมีปัญหาในการหายใจ
ทั้งนี้ควรไปพบแพทย์หากมีอาการบวมและรู้สึกปวดต่อเนื่องจากการนั่งในท่าเดิมเป็นเวลานาน และควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากพบสัญญาณชีพผิดปกติเข่นของอาการปอดบวมน้ำ เช่น หายใจไม่อิ่ม หายใจลำบาก หายใจเร็วถี่มากกว่า20ครั้งต่อนาที หรือเจ็บหน้าอก เป็นต้น

สาเหตุของอาการบวมน้ำ

  1. ทานเกลือโซเดียมมากเกินไป
    โซเดียมเป็นเครื่องปรุงที่อยู่ในอาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง และอาหารแทบทุกชนิดที่มีส่วนผสมของผงชูรส เมื่อเรารับประทานเข้าไปมาก ๆ เราจะรู้สึกหิวน้ำ จนต้องดื่มน้ำเข้าไปมาก ๆ ซึ่งทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำเอาไว้ในปริมาณที่มากเกินไปและกว่าไตจะขับออกมาก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ
  2. นั่ง ยืน หรือนอนมากเกินไป
    ​ร่างกายเมื่อไม่มีการขยับเคลื่อนไหวมีส่วนทำให้เกิดภาวะคั่งของน้ำในเซลล์ร่างกาย โดยเฉพาะใครที่ยืนนาน ๆ จะเห็นได้ว่าเท้าบวม หรือคนที่นั่งเป็นเวลานานโดยไม่ได้ลุกไปไหน ทั้งเท้าและขาก็อาจมีอาการบวมน้ำได้เช่นกัน
  3. ดื่มน้ำน้อย
    หากมีความคิดที่ว่าการดื่มน้ำน้อย ๆ จะช่วยลดอาการบวมน้ำให้เราได้ ซึ่งเราควรเปลี่ยนความคิดใหม่เพราะยิ่งร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ ปริมาณโซเดียมจากอาหารที่กินเข้าไปก็จะยิ่งไม่ถูกขับออกมา ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำได้ง่ายและเกิดอันตรายต่อไตได้
  4. การอดนอน
    การนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยสนับสนุนให้กระบวนการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายเป็นปกติดี แต่เมื่อเรานอนน้อย นอนไม่พอ อดนอนติดต่อกันหลาย ๆ วัน อาจส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายเกิดการแปรปรวนได้ โดยเฉพาะคนที่นอนดึกก็กินดึก กินหนัก กินอาหารขยะเป็นส่วนใหญ่ จะเจอกับอาการบวมน้ำได้มากขึ้น
  5. เกิดจากการใช้ยาบางชนิด
    การใช้ยาบางชิดสามารถทำให้เราเกิดอาการบวมได้ เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ หรือ NSAIDs ยาเอสโตรเจน ยาสเตียรอยด์ ยารักษาความดันโลหิตสูง ยารักษาโรคเบาหวานบางชนิด เช่น ยาไทอะโซลิดีนไดโอน เป็นต้น
  6. อาการเจ็บป่วย
    • ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ หรือโรคเกี่ยวกับไทรอยด์
    • ต่อมน้ำเหลืองทำงานผิดปกติ
    • เส้นเลือดขอด หลอดเลือดดำที่ขาได้รับความเสียหาย หรือไม่แข็งแรง
    • การติดเชื้อ
    • ภาวะขาดโปรตีนอย่างรุนแรง หรือขาดโปรตีนเป็นเวลานาน
    • อาการแพ้อย่างรุนแรง
    • โรคไต
    • โรคตับ เช่น ตับแข็ง
    • ภาวะหัวใจวาย

วิธีช่วยลดอาการบวมน้ำ

  1. เมื่อเกิดอาการบวมน้ำแล้วเราเริ่มรู้สึกได้ ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดที่มักจะมีปริมาณโซเดียมสูง
  2. ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เพื่อเป็นการขับโซเดียมออกจากร่างกาย
  3. ในขณะที่นอนหลับนั้นก็ควรที่จะยกเท้าให้สูงขึ้นกว่าระดับหัวใจ
  4. การออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำ ประมาณ 30-60 นาทีต่อวัน ซึ่งการว่ายน้ำเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดอาการบวมน้ำได้ เนื่องจากแรงดันน้ำที่สูงกว่า จะช่วยดันน้ำในส่วนที่ขังอยู่ในร่างกายออกมาได้
  5. หากจะให้ดีก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่ส่งผลในการช่วยลดอาการบวมน้ำอย่างเช่น ทูน่า กล้วย อโวคาโด ผักคึ่นช่าย เป็นต้นโดยหมายถึงผู้ที่มีการทำงานของไตปกติ หากไตทำงานน้อยผิดปกติต้องงดอาหารที่มีโปตัสเชี่ยมสูงเช่นผลไม้ต่างๆกล้วย อโวกาโด
  6. หากอาการยังไม่ดีขึ้นหรือบวมกดบุ๋มมากควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและจะได้ดำเนินการรักษาอย่างถูกต้อง
    อาการบวมน้ำนั้นไม่ควรละเลยต้องรีบหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นอาจนำไปสู่ภาวะไตวายและต้องฟอกไตไปตลอดชีวิต หรือเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ จึงควรหมั่นสังเกตุตนเองและตรวจร่างกายประจำปีเพราะปัจจุบันเราทานอาหารที่ล้วนอุดมด้วยสารโซเดียมในรูปแบบผงชูรสต่างๆในอาหารเกือบทุกชนิดจึงทำให้อัตราป่วยโรตไตวายพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก และหนึ่งในอาการที่แสดงออกมาคืออาการบวมนำ้นั่นเอง

“สุขภาพดีเป็นสุนทรียภาพและความงามคือความสุข”

สนใจ ปรึกษาสอบถามเรื่องสุขภาพได้ที่

ADD US ON LINE
FACEBOOK PAGE
โทร (Call) +662 661 4431
อีเมล์ (E-mail) info@drorawan.com

#drorawan #sukhumvit #docter #skin #holistic #beauty #สุขภาพ #ความงาม #tips

Related Blogs/บทความที่น่าสนใจ

7 habits of emotionally intelligent person
Posted by Dr. Orawan | พฤษภาคม 21, 2021
นิสัย 7 ประการของผู้ฉลาดทางอารมณ์
กล่าวโดยสรุป ผู้ที่มีความฉลาดท...
what is probiotic
Posted by Dr. Orawan | พฤษภาคม 21, 2021
Probiotics คืออะไร? สุขภาพดี…เริ่มต้นที่ลำไส้
การที่จะทำให้ลำไส้ของเราแข็งแร...
โรคเบาหวาน ความดัน
Posted by Dr. Orawan | พฤษภาคม 21, 2021
แอบฟังเซลล์ในร่างกายคุย(บ่น)กัน
แอบฟังเซลล์ในร่างกายคุย(บ่น)กั...