หลังจากที่รู้ได้ว่าตัวเองเป็น มะเร็งเต้านม ระยะที่4
คือลามไปต่อมน้ำเหลือง และปอดทุกกลีบตอนนั้นสมองมึนงง คิดอะไรไม่ออก เพราะเท่าที่ทราบมะเร็งระยะนี้จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสามเดือน ตอนนั้นคิดแค่ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่เดือนเนี่ย เราจะตายแล้วใช่ไหม เพราะเท่าที่รู้มาว่าคนเป็นมะเร็งตายเร็วทุกคน สิ่งที่ทำได้ คือ ต้องตั้งสติค่อยๆคิด หาข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งและวิธีการรักษา และเหมือนโชคชะตาเข้าข้าง ได้มีโอกาสเรียนปรึกษาคุณหมออรวรรณ ซึ่งท่านเป็นผู้มีความเขี่ยวชาญด้านผิวหนัง Anti-Aging และศาสตร์การแพทย์องค์รวม ท่านได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการให้วิตามินซีเข้าเส้นเลือด จะสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ คุณหมอเล่าให้ฟังง่ายๆ ว่า มะเร็งต้องการนำ้ตาลมาใช้เป็นพลังงานในการแบ่งเซลให้ลุกลามขยายตัว ส่วนวิตามินซีเองนั้นมีโมเลกุลที่ใกล้เคียงคล้ายกับนำ้ตาลมากจนทำให้เซลมะเร็งจำผิด จะเขมือบเข้าไปทำให้เซลมันขยายตัวแตกตายจึงทำให้มะเร็งยุบลงได้ อีกทั้งวิตามินซีโดสสูงๆจะช่วยต้านการอักเสบในร่างกาย ช่วยลดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็ง โดยไม่ก่ออันตรายต่อเซลดี กลับช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้นขาวใสขึ้นและริ้วรอยลดลงด้วย พอได้ฟังคำอธิบายจากคุณหมออรวรรณทำให้มีกำลังใจขึ้นมากและเริ่มให้วิตามินเข้าเส้นเลือดตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา (ตั้งแต่ 18 กันยายน 2562) โดยคุณหมออรวรรณยังแนะนำเพิ่มเติมให้ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ เช่น
การคิดบวก เข้านอนแต่หัวคำ่ ฝึกทำสมาธิ โดยคุณหมอพาไปฟังธรรม ส่งโปรแกรมนั่งสมาธิให้ทำทุกวันต่อเนื่องรอบละ 21 วัน พาไปการออกกำลังกายชี่กงพร้อมคุณหมอเพื่อการขยายปอด และแนะนำการทำอาหารทานเอง (เน้นผัก ผลไม้เยอะๆ งดเค็มและหวานเด็ดขาด) ให้ทำตัวให้มีประโยชน์ต่อสังคม หลังจากให้วิตามินได้ 6 สัปดาห์โดยยังไม่ได้รับการรักษาใดๆจากทาง รพ. นอกจากไปตัดชิ้นเนื้อ ตรวจและ CT Scan คุณหมอได้ให้ไปรับการตรวจซำ้ ผลตรวจทั้ง X-Ray & CT Scan ออกมาว่า มะเร็งที่ลามไปปอดทั้งสองงข้างและทุกกลีบหายด้วยการรับวิตามินและอาหารเสริมที่คุณหมอจัดให้เป็นมื้อ มาตลอดอย่างต่อเนื่อง โดยคุณหมอให้ไปรับการปรึกษาและดูแลร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแผนปัจจุบันที่รพ
พบว่าจากมะเร็งระยะที่ 4 ลงมาเป็นระยะ 3 เนื่องจากไม่พบที่ปอดแล้ว จึงให้รับเคมีบำบัดพร้อมวิตามินซีหยดเข้าเส้นและอาหารเสริมช่วยสุขภาพโดยรวมอย่างมาก จนคุณหมอที่รพ. ชมว่าแข็งแรงมากเพราะแทบไม่มีผลข้างเคียงของเคมีบำบัดเหมือนคนอื่นเลย อีกทั้งร่างกายแข็งแรง ไม่อ่อนเพลีย ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และสามารถรับการรักษาด้วยการผ่าตัดได้ในที่สุด ทุกวันนี้ยังคงมารับการรักษาด้วยวิตามินหยดเข้าเส้นอยู่ โดยการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากคุณหมออรวรรณ และทีมงาน น้องพยาบาลที่แสนใจดีและมือแทงเข็มที่เบามาก และน้องๆทีมงานที่น่ารักทุกคน สถานที่สะอาด มีห้องเป็นส่วนตัว สัมผัสได้ถึงความรักและห่วงใยอย่างแท้จริงและความเป็นมืออาชีพของทุกท่าน รู้สึกขอบพระคุณมากและขอแชร์เรื่องราวเล็กๆน้อยๆนี้เผื่อผู้อื่นที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ขอให้กำลังใจนะคะว่ายังมีทางรักษาได้และยังมีนำ้ใจที่แสนอบอุ่นอีกมากมายในบ้านเราค่ะ
ขอขอบคุณคุณหมอและทีมงาน Dr. Orawan Laser Skin Clinic เป็นอย่างยิ่งค่ะ และตนเองยินดีให้คำปรึกษาสอบถามถึงประสบการณ์ที่ได้รับได้นะคะ สู้ๆค่ะ