ภูมิแพ้ผิวหนัง (Skin Allergies) อาจจะเป็นผลมาจากอาการแพ้ แค่สัญญาณเตือนให้เราระวังตัว หรือเป็นผลมาจากเราได้รับสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ (Allergens)
ยกตัวอย่างที่หมอพบบ่อย คือ การรับประทานอาหารที่ร่างกายต่อต้านเข้าไป ซึ่งร่างกายแต่ละคนจะแสดงออกมาไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็น ผื่น หรือรอยที่ผิวค่ะ
เมื่อเรามีอาการหรือความผิดปกติทางผิวหนัง นั่นเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า ร่างกายเราไม่สมดุล มีโรค หรืออาจแพ้อะไรบางอย่าง ซึ่งจะเป็นสารจากภายนอก เช่น ยา อาหาร เครื่องสำอาง น้ำยาทำความสะอาด หรือติดเชื้อรวมถึงพยาธิเข้ามาในร่างกาย หรือเป็นโรคภายในอวัยวะที่แสดงออกมาทางผิวหนังก็ได้ค่ะ
เรามาดูกันค่ะว่า ถ้าเรามีภูมิแพ้ผิวหนัง มีอะไรเกิดขึ้นกับผิวเราบ้าง
- ผื่นหรือผื่นผิวหนัง (Rash/Skin Rashes) – ถ้าผิวเป็นผื่น เราจะเห็นว่ามีรอยแดง อาจจะคันและบวมด้วย อาจมีขุยมีสเก็ดได้ ผื่นถือว่าเป็นปัญหาผิวหนังที่พบมากที่สุดค่ะ
- โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (Eczema) – ถือว่าเป็นอาการที่รุนแรงกว่าผื่น เพราะผิวมีการอักเสบ คัน และอาจจะถึงขั้นเนื้อตัวคล้ำ ช้ำ และอาจมีเลือดออกด้วย
- ผื่นแพ้จากการสัมผัส (Contact Dermatitis) – ส่วนใหญ่จะเกิดจากการที่ผิวเราไปสัมผัสกับสารที่ทำให้ผิวแพ้ และไม่ได้ล้างออกหรือล้างออกไม่หมดผสมกับเหงื่อของเราหรือโดนความชื้นจะขึ้นผื่นง่ายขึ้น เช่นเครื่องสำอางบางชนิด น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีสารทำให้ผิวเราแพ้ ตลอดจนสารโลหะที่สัมผัสผิว เช่น หัวเข็มขัด ต่างหู หัวสายรัดรองเท้า เป็นต้นค่ะ
- ลมพิษ (Hives) คนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นผื่นบวม มีรอยนูนแดงที่ผิว ซึ่งขนาดก็จะแตกต่างกันไป บางรายก็คันและรู้สึกแสบร้อนด้วยค่ะ ผื่นมักขึ้นแล้วหายใน 24 ชั่วโมง แต่ก็จะมีผื่นใหม่เกิดขึ้นเมื่อยังไม่ได้กำจัดต้นเหตุลมพิษแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด นั่น คือ
1.ลมพิษเฉียบพลันมักเกิดจากอาหาร ยา หรือการสัมผัสสารที่แพ้ เป็นๆหายๆติดต่อกันน้อยกว่า 4 สัปดาห์ อาจหาสาเหตุเองได้
2. ลมพิษเรื้อรัง เป็นๆหายๆนานกว่า 4 สัปดาห์ มักหาสาเหตุเองไม่ได้ ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยหาสาเหตุและรักษา - อาการตาบวม (Swollen Eyes) ตาอาจจะมีน้ำตาลไหลออกมา มีอาการคัน จนถึงขั้นตาบวมจากภูมิแพ้
- อาการคัน (Itching) อาการคันที่ผิวหนังอาจเกิดจากผิวแห้ง ภูมิแพ้ หรือทั้งสองสาเหตุร่วมกันได้คะ สามารถส่งเสริมอาการให้คัน บวมแพ้มากขึ้น
ภูมิแพ้ผิวหนัง ส่วนใหญ่เกิดจากอะไร?
ในศาสตร์ของแพทย์ผิวหนัง พบว่ามีหลายสาเหตุซึ่งต้องตรวจหาอย่างละเอียดในรายที่เป็นเรื้อรัง เพราะนอกจากคนไข้จะทรมาน ลดคุณภาพชีวิตแล้ว ยังอาจเป็นการแสดงออกถึงโรคภายในที่ต้องการการดูแลโดยเฉพาะเป็นพิเศษด้วย สาเหตุต่างๆพอสรุปได้ดังนี้
สาเหตุทางพันธุกรรม โดยมียีนส์ที่ไวต่อสารบางตัวมาจากพ่อแม่เรานั่นเองค่ะ อาการแพ้ที่เราได้มาจากพ่อแม่ อาจเป็นยาและอาหาร ปัจจุบันสามารถตรวจระหัสพันธุกรรมเพื่อทราบได้ จะได้หลีกเลี่ยงสารนั้นๆ
ภูมิแพ้ที่เกิดเองภายหลังจากที่ได้รับสารนั้นมาสักระยะ และร่างกายเกิดการต่อต้านซึ่งแบ่งเป็น การต่อต้านแบบถาวร (IgE) อาจเป็นได้ทั้งจากพืช สัตว์สิ่งของและสภาวะแวดล้อม เช่น ฝุ่นละอองเกสรดอกไม้ เชื้อรา ปูนซีเมนต์ น้ำหอมสเปรย์ แพ้น้ำลาย ขนสุนัขหรือแมว แมลงสาบ แพ้ยา ส่วนใหญ่จะแพ้ยาเพนิซิลลิน (Penicillin) หรือยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย พิษสัตว์กัด/ต่อย – ผึ้งหรือแตนต่อย หรือยุงกัด เป็นต้น แพ้พืช/หญ้า –หลายคนจะแพ้เกสรดอกหญ้า/ดอกไม้ ซึ่งพบบ่อยมากค่ะ สาเหตุอื่นๆ หลายคนก็อาจจะแพ้ถุงมือ หรือถุงยางอนามัยที่มีสารลาเท็กซ์ (Latex) เป็นต้น
ภูมิแพ้ที่เกิดภายหลังจากสารอาหารซึ่งพบมากขึ้นเรื่อยๆ เกิดขึ้นได้เมื่อภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา สร้างสารต่อต้านอาหารขึ้นมา ในประเทศสหรัฐอเมริกา คนแพ้อาหารกันมากถึง 15 ล้านคน โดยเฉพาะในเด็ก ตัวเลขที่บ้านเราก็ใกล้เคียงกันค่ะ
ภูมิแพ้ที่เกิดจากอาหารน่าห่วงมากตรงที่ ไม่ใช่เฉพาะผิวเท่านั้นที่มีผลกระทบ แต่สามารถเป็นไปได้ทุกอวัยวะทำให้เกิดโรคที่ไม่รู้สาเหตุต่างๆ เช่น โรคของลำไส้ทางเดินอาหาร สมองอาจจะมาด้วยปวดศีรษะ หรือปวดข้อปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ด่างขาว สเก็ดเงิน ไปจนถึงการทำงานของหัวใจได้ ทุกระบบ
อาหารที่คนแพ้และพบบ่อยมากที่สุด มีดังนี้ค่ะ
- นมวัว (Cow’s Milk)
- ไข่ (Eggs)
- ถั่วลิสง (Peanuts)
- ปลา (Fish)
- กุ้งและหอย (shell Fish)
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์และวอลนัท (cashews & Walnuts)
- ข้าวสาลี (Wheat)
- นมถั่วเหลือง (Soy Milk)
อาการแพ้ที่พบบ่อย ก็จะไล่ตั้งแต่ จาม มีน้ำมูกไหล ผิวมีผื่นขึ้น ปวดจุกเสียด ท้องร่วง เลือดกำเดาไหล ปวดข้อ ปวดศีรษะเป็นต้น
โรคภายในที่แสดงอาการออกมาทางผิวหนังมีมากมายหลายระบบคะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังคะ เช่น โรคติดเชื้อต่างๆ โรคพุ่มพวง (SLE)
อาการภูมิแพ้ รักษาอย่างไรได้บ้าง?
วิธีรักษาที่ดีที่สุด คือ ต้องค้นหาสาเหตุให้พบและหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดเป็นซ้ำพร้อมกันก็รักษาอาการที่เป็นอยู่ ร่วมกับการเพิ่มภูมิต้านทานแนวธรรมชาติบำบัดเพื่อว่าจะได้หายขาด
วิธีรักษาอื่นๆ นอกจากการหาสาเหตุและหลีกเลี่ยงมีดังนี้ค่ะ
ยารักษาอาการภูมิแพ้ ยากลุ่ม Antihistamines ที่จะเข้าไปช่วยลดอาการแพ้ ยากลุ่มนี้มักจะทำให้ง่วงซึม และนำ้หนักขึ้นได้ เป็นการระงับการหลั่งสารภูมิแพ้ ซึ่งช่วยได้ชั่วคราว
การให้สารสเตียรอยด์ช่วยให้หายเร็วมากกว่า แต่มีผลเสียระยะยาวเนื่องจากจะไปกดภูมิคุ้มกันโดยตรงทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เมื่อใช้ไปนานเกินสองสัปดาห์มักก่อให้เกิดสิว ผิวบางผิวแตก ผิวแก่ก่อนวัย อ้วน หน้ากลม หนวดขึ้น และกดการทำงานของต่อมหมวกไต ทำให้ติดเชื้อง่ายป่วยง่าย แขนขาอ่อนแรง และติดยาถ้าไม่ได้ทานจะไม่สบายตัว
คำแนะนำจากสถาบัน ดร. อรวรรณ
สำหรับหมอเองขอแนะนำการแพทย์แนวบูรณาการโดยหลีกเลี่ยงสารเคมีทั้งสองดังกล่าวข้างต้น ด้วยการหาสาเหตุ และแนะนำวิธีหลีกเลี่ยงพร้อมกันก็จะทำการบำบัดอาการที่เป็นด้วยการใช้เลเซอร์เย็นบำบัดร่วมกับจุดฝังเข็ม และให้วิตามินซีปริมาณสูง (IV Drip) เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย ร่วมกับการใช้ Homoeopathy ที่เหมาะเฉพาะบุคคลเพื่อให้หายขาดด้วยตัวคนไข้ได้เองในที่สุด
สนใจปรึกษาปัญหาภูมิแพ้ผิวหนัง หรือสนใจตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุอาการภูมิแพ้ ติดต่อสอบถามมาที่สถาบันสุขภาพผิวหนังและการแพทย์ชะลอวัยแบบองค์รวมดร.อรวรรณได้ทั้ง 3 สาขา ตามรายละเอียดด้านล่างค่ะ
สาขากรุงะเทพ: สุขุมวิท 02-6614431
สาขาภูเก็ต: 076-377679
สอบถามด้วยตนเองกับทีมงานของเราได้ที่ สถานี BTS ชิดลม ทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30–18:30 ค่ะ
บทความนี้หากท่านเห็นว่ามีประโยชน์ กด Share ให้เพื่อนๆได้อ่านด้วยนะค่ะ