ปัจจัยที่ทำให้เราแก่ลงทุกวัน ได้แก่
นาฬิกาชีวิตที่เดินหน้าไปที่ทำให้เราเสื่อมตลอดเวลา
การสั้นลงของหางโครโมโซมที่เรียกว่าเทโลเมียร์ตามเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป
การเกิดขึ้นของอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากอาหาร สภาพแวดล้อมและจิตใจที่จะไปทำลายดีเอ็นเอ โปรตีนและไขมัน
และ ปฏิกิริยาไกลเคชั่น
ปัจจัยนาฬิกาชีวิตอาจจะเปลี่ยนไม่ได้ตามอายุขัยของมนุษย์
แต่อีก 3 ปัจจัย คือ เทโลเมียร์ อนุมูลอิสระ และปฏิกิริยาไกลเคชั่น อาจจะพอหาหนทางในการชะลอให้ช้าลงได้หลายวิธี
แต่จะขอยก “5 ตัวอย่าง” ที่สามารถนำไปใช้ได้ดังนี้
1. กินน้อยแก่ช้าตายยาก กินมากตายง่ายแก่เร็ว เพราะการกินมากย่อมทำให้เกิดอนุมูลอิสระมาก เกิดการแบ่งเซลล์มากขึ้น
2. กินแป้งมาก หวานมาก แก่เร็วชัวร์ เพราะวิวัฒนาการของคนในยุคปัจจุบันที่มีเครื่องดื่มและขนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความหวาน (ผ่านแป้งขัดขาวและน้ำตาล)
3. กินพืชเป็นหลัก (โดยเฉพาะไฟเบอร์สูง) แก่ช้ากว่า เพราะนอกจากในประเด็นที่ว่าการกินพืชเป็นหลักจะทำให้มีแคลอรี่ต่ำกว่าเนื้อสัตว์
4. กินเครื่องเทศ ต้านอนุมูลอิสระเหนือกว่ากินผัก และผลไม้แบบขาดลอย ในการแพทย์แผนไทยและอายุรเวทอินเดียเห็นว่าโรคที่จะเกิดขึ้นหลังอายุ 30 ปีขึ้นไปแล้ว
5. เลี่ยงอาหาร การกระทำ และสิ่งแวดล้อมอนุมูลอิสระสูง ได้แก่อาหารที่มีการผัดทอดด้วยไขมันไม่อิ่มตัวจนเกิดสภาพเหลือง กรอบ หรือไหม้
สำหรับคนที่สนใจรายละเอียดในเรื่องความเป็นไปในเรื่องของการปฏิบัติตัวเพื่อชะลอวัยสามารถเข้ามาติดตามได้จากทางเพจนี้นะคะ